ภาษา

บทความเพื่อสุขภาพ

ค้นหาบทความ

ดูแลลูกน้อย ให้ห่างจากไวรัส RSV

ดูแลลูกน้อย ให้ห่างจากไวรัส RSV

ในช่วงหน้าฝนของทุกๆ ปี เชื้อไวรัส RSV  (Respiratory Syncytial Virus)  จะระบาดอย่างมากในประเทศไทย  ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อกันได้ง่ายๆ เพียงการสัมผัสอย่างใกล้ชิด หรือสัมผัสสารคัดหลั่ง และทางลมหายใจ   โดยผู้ป่วยจะมีอาการเบื้องต้นคล้ายเป็นหวัด คือ ปวดศีรษะ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล พบผู้ที่ติดเชื้อไวรัส RSV ได้ในทุกวัย แต่พบมากในเด็กเล็ก  ซึ่งเด็กเล็กสามารถรับเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่แรกเกิด  ซึ่งเชื้อจะมีระยะฟักตัวประมาณ 2- 6 วัน หลังจากที่ได้รับเชื้อ

 

อาการที่พบในเด็กเล็ก

  •  หายใจลำบาก หายใจเร็วกว่าปกติ หายใจมีเสียงหวีด  หรือหอบเหนื่อย
  • ปีกจมูกบานเวลาหายใจ
  • ไอและมีเสมหะเป็นสีเทา สีเขียว หรือสีเหลือง
  • จามบ่อยและมีน้ำมูกใสๆ ไหลตลอดเวลา
  •  ปากเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำจากภาวะขาดออกซิเจน
  • มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
  •  เซื่องซึม เบื่ออาหาร หรือมีผื่นขึ้น

 

การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อไวรัส RSV โดยตรง แต่ใช้วิธีการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ พร้อมกับเช็ดตัวเพื่อลดไข้  การให้ยาแก้ไอละลายเสมหะ แต่ในเด็กบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก ต้องทำการพ่นยาขยายหลอดลมผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอดและดูดเสมหะออก จะช่วยลดความรุนแรงของอาการไอและอาการหายใจหอบเหนื่อยได้ และนอนพักผ่อนเยอะๆ  เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ทั้งนี้  เชื้อไวรัส RSV มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกหากร่างกายเราอ่อนแอ

 

 

การป้องกัน

  • ล้างมือให้สะอาด ล้างมือบ่อย ๆ เช่น ก่อนมื้ออาหาร หลังเข้าห้องน้ำ เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงให้เด็กที่คลอดก่อนกำหนดและทารกในช่วงอายุ 1-2 เดือนแรกสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อหรือเป็นไข้หวัด
  • หลีกเลี่ยงการจูบและหอมเด็ก เพราะอาจเป็นการแพร่เชื้อโรค โดยไม่รู้ตัว
  • ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
  • ทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบว่าเด็กที่ป่วยมาเล่นของเล่นนั้นๆ
  • ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันหากมีการสัมผัส
  • ไม่นำบุตรหลานไปอยู่ในสถานที่แออัด