ภาษา

บทความเพื่อสุขภาพ

ค้นหาบทความ

หมอกจางๆ และควัน...มาพร้อมกันกับภูมิแพ้
 
โดยทั่วไปแล้วบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นหมอกควันมากกว่าประชาชนทั่วไป คือ บุคคลที่เป็นโรคหอบ โรค หลอดลมอักเสบ โรคภูมิแพ้
โรคติดเชื้อในปอดเรื้อรัง จะได้รับอันตรายโดยตรง นอกจากนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่ คนชรา เด็กและคนทา งานในที่โล่งแจ้ง
 
 
ผลกระทบและอาการที่เกิดจากการหายใจเอาฝุ่นหมอกควันเข้าไป คือ
ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจตอนบนอาจได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองในหมอกควันในระดับต่ำกว่าคนอื่น เพราะเยื่อบุทางเดินหายใจมักมีความไวมากกว่าคนธรรมดา จะมีอาการน้ำตาไหล คัดจมูก น้ำมูกไหล มีผื่นคันและเจ็บคอ
 
 
ผู้ที่เป็นโรคปอด โรคหัวใจ หรือโรคหอบขั้นรุนแรง จะมีอาการอึดอัดหายใจลำบาก
ในกรณีของความเข้มข้นของฝุ่นสูงมาก จะทา ให้ประชาชนทั่วไปมีอาการแสดงออกหลายทาง ได้แก่ ทางตา คือ เคืองตา ตาแดง ทางจมูก คือ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และทางหลอดลม คือ ไอ หายใจติดขัด หอบหืด รวมทั้งอาจมีผื่นคันทางผิวหนัง
 
 
การปฏิบัติตนในภาวะหมอกควัน
1. สำหรับอาคารบ้านเรือน ให้ปิดประตูหน้าต่างหรือป้องกันฝุ่นเข้า หรือในกรณีที่ไม่สามารถปิดประตูหน้าต่างได้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำทำเป็นม่านปิดประตูหน้าต่าง เพื่อเป็นตัวกั้นฝุ่นไม่ให้เข้าบ้านให้อยู่ภายในอาคารบ้านเรือน
2. ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกนอกบ้านเรือนโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง 
 
 
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ให้ปฏิบัติดังนี้
1. ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นหนาแน่นมากให้ใช้หน้ากากกรองฝุ่น
2. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และการทำงานหนักที่ต้องออกแรงมาก เพราะการหายใจเร็วในระหว่างการออกกำลังกาย จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณฝุ่นละอองเข้าไปมาก
3. ให้ดื่มน้ำมากๆ และงดเว้นการสูบบุหรี่ในช่วงที่มีสภาพปัญหาหมอกควันปกคลุม
4. สำหรับเด็ก คนชรา ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบ หืด โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดและโรคหัวใจจะต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ โดยจะต้องปฏิบัติตามคา แนะนา ของแพทย์ ในการรับประทานยา การรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และรีบปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือรีบไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการทรุดลง และพยายามหลีกเลี่ยงมิให้สัมผัสกับอากาศที่มีฝุ่นละออง หรือมีการใช้หน้ากากกันฝุ่น
5. ให้งดการรองรับน้ำฝนไว้ใช้อุปโภคบริโภคชั่วคราว ในช่วงเวลาดังกล่าว และหากจำเป็นต้องรองรับน้ำฝนมาใช้อุปโภคบริโภคขณะมีปัญหาหมอกควันปกคลุม ควรปล่อยให้ฝนตกลงอย่างน้อย ๑ ชั่วโมง ก่อนรองรับน้ำฝนมาใช้ และหากมีหมอกควันปกคลุมอีกหรือสังเกตพบน้ำฝนที่รองรับกลางแจ้งมีตะกอนขุ่น รสชาติฝาดหรือเปรี้ยวหรือมีกลิ่นผิดปกติ ก็ให้งดเว้นการรองรับน้ำฝนทันที
6. ไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่เป็นสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมทั้งขยะทั่วไป
7. ลดการใช้รถยนต์หรือใช้เท่าที่จำเป็ นเพื่อมิให้มลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ก่อปัญหาซ้ำเติมหรือทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงอีก
8. ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาด ๆ ปิดจมูกและปาก
 
 
ข้อแนะนำในการใช้หน้ากาก
1. การใส่หน้ากากจะต้องให้กระชับแน่นกับหน้า จึงจะป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ไม่ใช้หน้ากากร่วมกัน เนื่องจากอาจติดเชื้อจากละอองน้ำมูก น้ำลายจากผู้สวมใส่แต่ละคน
 
บุคคลที่จำเป็นต้องใช้หน้ากากเป็นอันดับแรก ในช่วงที่มีฝุ่นหมอกควันหนาแน่น (ทัศนะวิสัยในการมองเห็นในช่วง ๑๐๐ – ๓๐๐ เมตร) ได้แก่เด็ก คนชรา ผู้ป่ วยโรคภูมิแพ้ หอบ หืด หัวใจ รวมทั้งบุคคลที่ต้องปฏิบัติงานนอกอาคาร ในช่วงเวลาดังกล่าว
 
 
ด้วยความปรารถนาดี จาก ศูนย์ผู้ป่วยนอก รพ.เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์
โทร. 053-910999
แฟกซ์ 053-153233
อุบัติเหตุฉุกเฉิน โทร. 053-700200