ร้อนสลับเย็น กับประโยชน์ที่คาดไม่ถึง หลังน้ำลด ลมหนาวเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องเตรียมรับมือ การบรรเทาลมหนาวโดยการอาบน้ำอุ่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่าเทคนิคการอาบน้ำอย่างง่ายๆ กลับส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง
วารีบำบัด (Hydrotherapy)
เป็นการนำเอาคุณสมบัติของน้ำมาใช้อย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย วารีบำบัดมีรากฐานมาจากความเชื่อที่ว่าน้ำเป็นส่วนประกอบสาคัญของร่างกายคนเรา และยังมีอยู่ในอาหารส่วนใหญ่ น้ำไม่ว่าจะอยู่ในรูปเป็นของเหลว น้ำแข็ง หรือไอน้ำ สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กำจัดของเสียออกจากร่างกาย ลดอาการปวดเกร็ง
สำหรับการใช้น้ำมาบาบัดโรคหรือวารีบำบัดนั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน แล้วและมีกันทุกชาติทุกภาษา โดยมีกันตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ กรีก หลังจากนั้นได้แพร่ไปสู่ยุโรปภาคตะวันออก กลายเป็นการอบไอน้ำแบบรัสเซีย (Russian bath) และการอบซาวด์น่าแบบฟินแลนด์ (Finnish bath) จนเมื่อสมัยกลางทศวรรษที่ 18 พระชาวเยอรมันที่ชื่อว่า เซบาสเตียน คไนพ์เกิดติดเชื้อป่วยเป็นโรควัณโรค ซึ่งถือเป็นโรคร้ายแรงมากในสมัยนั้นได้พยายามแสวงหาหนทางรักษาตัวเอง แรกเริ่มท่านไปแช่ตัวในธารน้ำเย็นใกล้ๆ ละแวกที่ท่านพำนักอยู่ แช่ทุกวันแม้ในวันที่มีอากาศหนาว จนชาวบ้านพากันนินทาว่าท่านคงเพี้ยนและตายในเวลาอันสั้นแน่นอน อยู่ไปอยู่ไป ท่านก็ไม่ตายเสียที กลับดูแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เลยเอาไปใช้รักษาผู้ป่วยรายอื่นๆ ด้วย ซึ่งต่อมาท่านได้พัฒนาเทคนิคการใช้น้ำในการรักษาแบบต่างๆ ออกไป เช่น การอาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็น เป็นต้น ปัจจุบันมีการนำเอาวารีบาบัดมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งการรักษาโรค เสริมสุขภาพ เสริมความงาม
วารีบำบัดจะช่วยสร้างสมดุลของร่างกายโดยอาศัยความร้อนความเย็นของน้ำที่มากระทบผิวกาย ซึ่งท่านสามารถประยุกต์นาวารีบำบัดในชีวิตประจาวันได้คือ ถ้าจะอาบน้ำเพื่อความสดชื่น ให้อาบน้ำเย็นแทนที่จะอาบน้าร้อน เพราะถ้าอาบน้ำร้อนหรือแช่น้ำร้อนนานๆ จะมีผลทำให้เลือดคั่ง ประสาทอ่อนล้า กระวนกระวาย และง่วงเหงาซึมเซา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องของการถูกความร้อนนานๆ แต่อาบน้ำเย็นจะมีผลสืบเนื่องทำให้อบอุ่น สดชื่น และสบายตัว การอาบน้ำร้อนควรทำกรณีเดียวคือ เมื่ออาบน้ำแล้วเข้านอน เพราะผลของความร้อนจะทำให้นอนหลับ
สำหรับการอบสมุนไพร หรืออบซาวด์น่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งที่หาปฏิบัติได้ไม่ยากนัก
ที่ถูกหลักจะต้องใช้การอบร้อนสลับเย็น เช่น อบซาวด์น่าให้อบร้อน 3 นาที แล้วลงบ่อในน้ำเย็น หรือรดน้ำฝักบัวน้าเย็นสัก 2 นาที สลับกัน 3 รอบ ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นการปรับสมดุลของอวัยวะภายในใหม่ ช่วยให้หัวใจ ปอด ตับ ไต ต่อมฮอร์โมน และภูมิต้านทาน ทางานเป็นปกติ การอบร้อนสลับเย็นยังมีผลช่วยลดความอ้วนในทางอ้อม เพราะสาเหตุของความอ้วนมีปัจจัยหนึ่งคือ ระบบฮอร์โมนชนิดเสริมสร้าง (Anabolic hormone) และฮอร์โมนชนิดสลาย (Catabolic hormone) ทำงานไม่ได้สมดุลกัน เมื่ออบซาวด์น่าจะช่วยให้ฮอร์โมนทั้ง 2 กลุ่มนี้ปรับตัวทำงานเสียใหม่ การอบร้อนอย่างเดียวเป็นเวลานาน ๆ เป็นอันตรายต่อร่างกายทำให้หน้ามืด เป็นลม และหัวใจ ขาดเลือด ดังนั้นท่านควรทำเช่นนี้
นอกจากการอบสมุนไพรแล้วยังมีการสูดไอน้ำซึ่งมักใช้กับอาการเกี่ยวกับปอดและ มักใช้ร่วมกับสมุนไพรหลายชนิด
โดยนำเอาสมุนไพรมาเคี่ยวและนำหม้อยาที่ต้มไว้ มาวางบนโต๊ะเตี้ยๆเปิดฝาออก ให้คนไข้นั่งในท่าที่ก้มหน้ารอรับไอน้ำได้ถนัด นาผ้าขนหนูมาคลุมไว้เหนือศีรษะของคนไข้ แล้วให้หายใจยาวๆลึกๆ ประมาณ 5-15 นาที จะทาให้ปอดสดชื่นขึ้น แต่ถ้าจะบรรเทาปัสสาวะอักเสบก็ควรจะดื่มน้ำมากๆ หรือ ดื่มน้ำคั้นจากแตงโมสดๆ หรือดื่มน้ำต้มหนวดข้าวโพด หรือรับประทานมะละกอมากๆและดื่มน้าลูกพรุน ก็สามารถช่วยบรรเทาปัสสาวะอักเสบได้ ในปัจจุบันศูนย์สุขภาพและสปาบางแห่งใช้วารีบำบัดในการรักษาอาการเมื่อยกล้าม เนื้อและปวดข้อ โดยการใช้ฝักบัวและไอน้ำหรืออ่างน้ำวนหลังการออกกำลังกายเป็นการช่วยให้ผู้ที่มีการออกกำลังกายได้รับความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ท่านผู้ฟังเมื่อได้ฟังเรื่องราวของวารีบำบัดแล้วคงพอจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย แต่จริงๆแล้ววารีบำบัดยังมีอีกมากเช่น การรักษาด้วยน้ำแร่ การแช่น้ำทะเล และการพอกโคลน เป็นต้น
ด้วยความปรารถนาดีจาก ศูนย์ผู้ป่วยนอก รพ.เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์
โทร. 053-910999
แฟกซ์ 053-153233
อุบัติเหตุฉุกเฉิน โทร. 053-700200