โรคหลอดเลือดสมองภัยร้ายใกล้ตัว

 

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 รองจากโรคเอดส์ และการบาดเจ็บผู้ป่วยที่ไม่เสียชีวิตก็จะมีความทรมานจากความพิการ/อัมพฤกษ์ อัมพาต หลงเหลือเป็นจำนวนมากและยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่มีความสำคัญต่อการป่วย พิการ และตายก่อนวัยอันควร ซึ่งโรคนี้ไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะบุคคลผู้ที่เป็นโรคเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงครอบครัว ชุมชน รวมไปถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลต่อภาวะการณ์เกิดโรคหลอดเลือดสมองทั้งเพศชายและเพศหญิง คือ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเกินมาตรฐาน คอเลสเตอรอลสูง บริโภคผักและผลไม้น้อย และขาดการออกกำลังกาย 

 

อายุมากเกิน 45 ปีขึ้นไป ก็จะยิ่งมีโอกาสเป็นโรคนี้สูง

ประชาชนไทยกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคที่เป็นสาเหตุของความสูญเสีย 2 อันดับแรกในชายคือ โรคหลอดเลือดสมองและภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่วนเพศหญิง คือ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวาน

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันโดยเฉพาะชนิดแบบ ขาดเลือดเฉียบพลันคือการส่งผู้ป่วยมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดภายในระยะ 3 ชั่วโมงแรกตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อให้ผู้ป่วยมีเลือดกลับมาเลี้ยงสมองให้เร็วที่สุด สมองส่วนที่ขาดเลือดจะได้มีขนาดเล็กที่สุด โดยการให้ยาละลายลิ่มเลือดที่อุดตันได้อย่างทันท่วงที เพื่อช่วยชีวิตและลด ความพิการที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย อีกทั้งยังลดระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลและลดค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยลงอย่างชัดเจน ข้อสำคัญคือการรักษาผู้ป่วยหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันให้ได้ผลดี และลดต้นเหตุของการเป็นอัมพาตนั้น ต้องอาศัยความพร้อมของเทคโนโลยีในการรักษา ด้วยอุปกรณ์หรือเทคนิคที่เหมาะสมและยาที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นปัจจัยที่สำคัญของผลการรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน 

 

โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอัมพฤกษ์ หรืออัมพาต มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ

หลอดเลือดในสมองตีบ หรืออุดตัน (พบประมาณ 70%) เลือดออกในสมอง (พบประมาณ 30%)

 

สำหรับ ในประเทศไทย จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ หรืออุดตันแบบเฉียบพลัน ได้รับการรักษาได้ทันเวลามีเพียงร้อยละ 1.96 เท่านั้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตและพิการสูงมาก ดังนั้นเมื่อเกิดอาการโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อฉีดยาละลายลิ่มเลือด หรือการขยายหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยก็มีอายุยืนยาวต่อไปและลดอัตราความพิการได้

 

ทั้งนี้ การป้องกันย่อมดีกว่าปล่อยให้เป็นโรคอย่างแน่นอนเพราะเมื่อเป็นโรคนี้แล้ว ผู้ป่วยไม่น้อยที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากความพิการ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งนอกจากการดูแลปฏิบัติตัวให้พ้นจากปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการ งดเหล้า งดบุหรี่ ออกกำลังกาย กินอาหารอย่างถูกต้องแล้ว การป้องกันที่สำคัญคือ การค้นหาว่าตนเองมีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง และหากท่านพบอาการแขนไม่มีแรง พูดไม่ค่อยชัด ปากเบี้ยว ควรจะไปพบแพทย์ในทันที

 

ด้วยความห่วงใยจาก... “คลินิกโรคหลอดเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน” โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคทางสมอง และระบบประสาท ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย 

 

ที่มา : คลินิกโรคหลอดเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน

 

ติดต่อสอบถาม

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์

โทร. 053-910999 

แฟกซ์ 053-153233

อุบัติเหตุฉุกเฉิน โทร. 053-700200