อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยช่วยให้แพทย์วัดและสังเกตผู้ป่วยทางด้านสุขภาพได้ในหลาย ๆ อย่าง ทำให้ได้การวินิจฉัย ซึ่งเมื่อวินิจฉัยได้แล้ว แพทย์ก็จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
อุปกรณ์ทางการแพทย์จะถูกพบได้ในห้องตรวจผู้ป่วยนอกทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ห้องฉุกเฉิน เช่นเดียวกันกับในหอผู้ป่วย และหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) โดยอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะพูดถึงต่อไปนี้อาจไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่จะช่วยให้รู้จักอุปกรณ์ที่ถูกใช้บ่อย ๆ เหล่านี้โดยสังเขป
หูฟังน่าจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่รู้จักกันดีที่สุด ซึ่งใช้ฟังเสียงหัวใจ เสียงปอด และแม้แต่เสียงการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ
หูฟังช่วยวินิจฉัยภาวะต่าง ๆ ดังนี้
หูฟังยังถูกใช้ร่วมกับเครื่องวัดความดัน (sphygmomanometer) เพื่อวัดความดันโลหิตอีกด้วย
หูฟังแบบใช้ไฟฟ้า (electronic stethoscpes) พัฒนาคุณภาพของเสียงเมื่อฟังเสียงโทนต่ำของเสียงหัวใจ หรือเสียงโทนสูงของปอด โดยอาจถูกต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกเก็บเสียงไว้ โดยเสียงที่ว่าอาจถูกส่งให้คนหลายๆคนได้ฟัง หรือส่งไปยังหูฟังอื่นที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการฝึกฝนของแพทย์ใช้ทุน แพทย์ประจำบ้าน และแพทย์ประจำบ้านต่อยอด
มีหลักฐานการศึกษาทางการแพทย์ที่พิสูจน์แล้วว่าการวัดความดันโลหิตเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินสุขภาพโดยรวมของคน ๆ หนึ่ง
เครื่องวัดความดันช่วยวินิจฉัยภาวะต่าง ๆ ได้ดังนี้
ความดันโลหิตสูงยังเกี่ยวข้องกับหลายโรค โดยมีอุปกรณ์หลายชนิดที่ใช้วัดความดันโลหิต ได้แก่
เครื่องวัดความดันโลหิตชนิดวัดด้วยมือ (manual sphygmomanometer) ซึ่งเชื่อถือได้มากที่สุด เครื่องวัดความดันชนิดใช้ปรอทไม่จำเป็นต้องทำการปรับให้เที่ยงตรงเป็นประจำ จึงใช้ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง
เครื่องวัดความดันโลหิตชนิดขดลวด (aneroid sphygmomanometer) มีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าเล็กน้อย เนื่องจากอาจเสียความเที่ยงตรงไปได้เมื่อตกกระแทก ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยในการทำงาน ดังนั้นเครื่องชนิดนี้รุ่นที่มีที่หุ้มป้องกันจะช่วยลดโอกาสการเสียหายจากการตกได้ แต่เพื่อให้แน่ใจ ก็ควรตรวจสอบความเที่ยงตรงด้วย โดยเครื่องวัดความดันชนิดขดลวดจะขึ้นตัวเลขค่าความดันให้อ่านได้ และมีลูกยางที่มีลิ้นกั้นอากาศ
เครื่องวัดความดันจากนิ้วมือชนิดดิจิตัล (Digital finger blood pressure monitor) เป็นเครื่องวัดความดันที่เล็กที่สุดและพกพาง่ายที่สุด ซึ่งแม้จะใช้งานได้ง่าย แต่ความแม่นยำก็อาจน้อยกว่าหน่อย
เครื่องวัดความดันชนิดดิจิตัล (Digital sphygmomanometer) เป็นอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์เช่นเดียวกับเครื่องวัดความดันจากนิ้วมือชนิดดิจิตัล ซึ่งสามารถทำให้ปลอกแขนวัดความดันขยายใหญ่ขึ้นได้ทั้งจากการบีบมือหรือโดยอัตโนมัติ เครื่องชนิดนี้ใช้งานง่าย แต่ไม่ได้วัดความดันโลหิตออกมาโดยตรง ตัวเลขที่วัดได้หมายถึงความดันของเส้นเลือดแดง (Arterial pressure) ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของความดัน Systolic และความดัน Diastolic ซึ่งเครื่องวัดความดันชนิดนี้จะต้องมาประมวลผลอีกรอบว่าความดัน Systolic และความดัน Diastolic จะเป็นเท่าไหร่ เครื่องมือนี้จะเป็นประโยชน์ในสถานที่ที่มีเสียงดังซึ่งเครื่องมือชนิดวัดมือจะด้อยประสิทธิภาพ เนื่องจากแพทย์จะต้องคอยฟังเสียง Korotkoff sound ในการวัดความดันโลหิตแบบวัดมือ
เครื่องมือนี้ถือด้วยมือได้ และทำให้แพทย์สามารถส่องดูจอตาของผู้ป่วยได้ เครื่องมือชนิดนี้มักใช้ในการตรวจสำหรับผู้ป่วยนอก
เครื่อง Opthalmoscopes ใช้วินิจฉัยภาวะดังนี้
Direct ophthalmoscopes จะให้ภาพหัวตั้งที่มีกำลังขยายประมาณ 15 เท่า โดยเครื่องมือนี้จะถูกถือให้อยู่ชิดตาของผู้ป่วยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Indirect ophthalmoscpoes จะให้ภาพหัวกลับที่มีกำลังขยาย 2-5 เท่า โดยจะอยู่ห่างจากตาของผู้ป่วย 24-30 นิ้ว และแสงที่ใช้ส่องก็แรงกว่า ทำให้ตรวจผู้ป่วยต้อกระจกได้มีประสิทธิภาพมากกว่า Direct ophthalmoscopes
Otoscopes เป็นอุปกรณ์ถือด้วยมือ ที่ทำให้แพทย์สามารถตรวจดูในรูหูของผู้ป่วย และตรวจดูเยื่อแก้วหูผ่านทางเลนส์ขยายได้
Otoscopes ช่วยในการวินิจฉัยภาวะดังนี้
ส่วนหัวของ Otoscope จะมีไฟส่องอยู่ ซึ่งไฟและเลนส์ขยายจะช่วยให้เห็นหูชั้นนอกและหูชั้นกลางได้ ส่วนที่แพทย์สอดเข้าไปในรูหูเรียกว่า Speculum ชนิดใช้แล้วทิ้ง ซึ่งจะอยู่ในที่เก็บในห้องตรวจ ดังนั้น Speculum อันใหม่จะถูกใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละคนไป
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นการตรวจการทำงานทางไฟฟ้าของหัวใจ ซึ่งสามารถบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจและความสม่ำเสมอได้ในระหว่างการตรวจ โดยทั้งคู่จะบ่งบอกถึงปัญหาในหัวใจได้ แพทย์สามารถอ่านผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจโดยบอกได้ว่าขนาดและตำแหน่งของห้องหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง และการใช้งานที่สำคัญที่สุดของการตรวจนี้คือการวินิจฉัยความเสียหายที่มีต่อหัวใจ และประสิทธิผลของการรักษาด้วยยาหรือการใส่อุปกรณ์
ปรอทวัดอุณหภูมินั้นใช้ในทุกที่และการรักษาทุกระดับ ตั้งแต่การตรวจร่างกายโดยทั่วไปจนถึงในแผนกฉุกเฉิน โดยในขณะนี้มีปรอทวัดอุณหภูมิชนิดอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดระยะเวลาในการวัดอุณหภูมิลง โดยปรอทชนิดอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถใช้กับร่างกายส่วนใดก็ได้โดยเฉพาะ เช่นในปาก การหนีบรักแร้ ทางทวาร หรือในหู
ข้อมูลจาก.honestdocs.co