ภาษา

บทความเพื่อสุขภาพ

ค้นหาบทความ

โรคต่อมลูกหมากโตหรือBPH(Benign Prostate Hyperplasia)

 

ต่อมลูกหมากโต

โรคต่อมลูกหมากโตหรือBPH(Benign Prostate Hyperplasia) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากที่อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะล้อมรอบท่อปัสสาวะมีขนาดใหญ่ผิดปกติจนไปบีบท่อปัสสาวะให้แคบลง พบในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป และโดยเฉพาะในผู้ชายสูงวัยอายุ 80 ปีขึ้นไปพบมากถึง 80%

7 สัญญาณบอกโรคที่เฝ้าระวัง
โรคต่อมลูกหมากโต แสดงอาการเบื้องต้นได้หลายอย่าง ดังนั้น เมื่อพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และวางแผนการรักษาให้ตรงจุด
-ปัสสาวะติดขัดใช้เวลานานในการปัสสาวะ
-ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน
-กลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือต้องเบ่งปัสสาวะจนกว่าจะออก
-ปัสสาวะไม่พุ่ง สะดุดเป็นช่วง ๆ มีปัสสาวะหยดเมื่อใกล้จะสุด ปัสสาวะไม่สุด
-ปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน
-ปวดปัสสาวะรุนแรงมาก
-ปัสสาวะไม่สุดมีหยดตามท้าย

การตรวจวินิจฉัยต่อมลูกหมากโตใช้วิธีการ

-ซักประวัติตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบอาการ ประเมินอาการ
-ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และตรวจวัดความแรงของลำปัสสาวะ
-อัลตราซาวนด์ขนาดต่อมลูกหมากที่เปลี่ยนแปลง
-ตรวจคลำต่อมลูกหมากผ่านทางท่อทวารหนักโดยใช้นิ้วสอดคลำ หรือ ดีอาร์อี (Digital Rectal Examination) เพื่อดูความผิดปกติ

 

ต่อมลูกหมากโต รักษาอย่างไรได้บ้าง
โรคต่อมลูกหมากโตสามารถรักษาให้หายได้ วิธีรักษาแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือการรักษาด้วยยา และการผ่าตัด ได้แก่

1. รักษาด้วยยา ช่วยคลายการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อต่อมลูกหมาก
ยาที่ใช้จะเป็นประเภทยาต้านระบบประสาทอัลฟ่า (Alpha Blocker) ช่วยลดอาการของต่อมลูกหมาก โดยแพทย์จะรักษาตามอาการเป็นหลัก

2. ผ่าตัดขูดต่อมลูกหมากออกด้วยการส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ เป็นวิธีตามมาตรฐานสากล ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง มีด้วยกัน 2 แบบ คือ

2.1รักษาทางศัลยกรรมผ่านกล้องส่องกระเพาะปัสสาวะ TURP (Transurethral Resection of the Prostate)
ผู้ป่วยจะได้รับยาสลบหรือยาชาเฉพาะที่ โดยแพทย์จะใส่กล้องขนาดเล็กที่มีลักษณะคล้ายท่อเล็กๆ เรียกว่า resectoscope เข้าไปทางอวัยวะเพศ ผ่านท่อปัสสาวะ และขึ้นไปยังต่อมลูกหมาก จากนั้นแพทย์จะใช้ห่วงไฟฟ้าที่ปลายกล้องตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากที่มีการอุดตันออกมา แล้วจึงปิดเส้นเลือดกลับดังเดิม โดยล้างทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวเพื่อล้างเอาเนื้อเยื่อออกให้หมด การผ่าตัดด้วยวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 90 นาที หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3-5 วัน และจะต้องใส่สายสวนปัสสาวะไว้เพื่อล้างและป้องกันลิ่มเลือดอุดตันท่อปัสสาวะ

2.2การผ่าตัดขูดต่อมลูกหมากโตผ่านกล้องส่องทางท่อปัสสาวะ TURPV (Transurethral Vaporized – Resection of the Prostate) หรือ Plasma Kinetic (PK) เป็นการใช้เครื่องตัดและจี้ด้วยระบบไฟฟ้าประจุคู่ไบโพลาร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรักษาเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ส่วนที่ถูกตัดและจี้ด้วยไฟฟ้าไม่ให้ไหม้เกรียมมากเกินไป มีระบบช่วยระเหิดเนื้อเยื้อคล้ายคลึงกับการใช้แสงเลเซอร์คือ แวโพไลเซชัน (Vaporization)

3. ผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์กรีนไลท์ PVP (Green Light PVP : Photo – Selective Vaporization of Prostate) เป็นนวัตกรรมการผ่าตัดต่อมลูกหมากโต โดยใช้หลักการคือ สอดท่อที่มีกล้องขนาดเล็กผ่านเข้าทางท่อปัสสาวะเหมือนการผ่าตัดส่องกล้อง แต่เปลี่ยนจากใช้ที่ขูดเป็นแสงเลเซอร์พลังงานสูงยิงไปในตำแหน่งที่มีภาวะอุดกั้นในต่อมลูกหมาก แสงเลเซอร์จะทำให้เนื้อเยื่อที่กีดขวางทางเดินปัสสาวะค่อยๆ ระเหิดหายไป วิธีนี้ผู้ป่วยจะเสียเลือดน้อย เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถหยุดยาละลายลิ่มเลือด

4. รักษาด้วยการใช้แสงเลเซอร์ทูเลียม (Thulium Laser Vaporesection of the Prostate) ได้ผลดีเทียบเท่าวิธี PVP แต่ต่างกันตรงที่สามารถตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากที่อุดกั้นทางเดินปัสสาวะให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อเก็บไว้ใช้ในการตรวจวินิจฉัยครั้งต่อไปในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีนี้ยังนำมาใช้รักษาภาวะอาการท่อปัสสาวะตีบจากพังผืดได้ด้วย

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากไม่รีบรักษา

- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

- ปัสสาวะเป็นเลือด เพราะต่อมลูกหมากบวมโต

- ไตเสื่อม ไตวาย

- ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อยครั้ง

- นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

- ไตเสียหาย เนื่องจากมีปัสสาวะไหลย้อนกลับ

- ไม่สามารถปัสสาวะได้

 

เพราะฉะนั้นการโตผิดปกติของต่อมลูกหมากเป็นเรื่องที่คุณผู้ชายไม่ควรมองข้าม นอกจากหมั่นสังเกตขณะขับถ่ายปัสสาวะแล้ว เมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป ควรปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจหาความเสี่ยงและป้องกันรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

 

 

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ 053 910 999 ต่อ 118